การสร้างสุขภาพจิตที่ดี สำหรับผู้สูงอายุ
admin |
31/10/2025
1) ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางสังคม (Social Connection)
ชวนทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว เช่น กินข้าว พูดคุย ทำบุญ ปลูกต้นไม้
ส่งเสริมเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุ วัด อปท. หรือกิจกรรมชุมชน
ลดความโดดเดี่ยว ด้วยการเยี่ยมบ้าน โทรหาบ่อย ๆ หรือใช้วิดีโอคอล
2) กระตุ้นสมองอย่างสม่ำเสมอ (Cognitive Stimulation)
ฝึกอ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง ต่อคำถามง่าย ๆ
สอนการใช้สมาร์ตโฟน เช่น ฟังเพลง ดูข่าว ส่งข้อความ
ทำงานศิลปะ งานฝีมือ เพื่อช่วยพัฒนาสมาธิและอารมณ์
3) ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (Physical Activity)
เดินวันละ 20–30 นาที หรือทำกายบริหารเบา ๆ
ฝึกทรงตัว ลดเสี่ยงหกล้ม เช่น ยืนขาเดียว เกาะพนักเก้าอี้
ทำงานบ้านเบา ๆ เช่น รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน
4) ดูแลสุขภาพการนอน
นอนให้ครบ 6–8 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงกาแฟช่วงเย็น และไม่งีบมากกว่า 30 นาที
ปรับห้องนอนให้สงบ อากาศถ่ายเท
5) โภชนาการที่ดีต่อสมอง
กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นปลาทะเล ผักใบเขียว ถั่ว
ลดหวาน มัน เค็ม ลดน้ำอัดลม
ดื่มน้ำให้พอเพียง
6) ควบคุมโรคประจำตัว
พาผู้สูงอายุพบแพทย์ตามนัด ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ
ควบคุมความดัน เบาหวาน ไขมัน ซึ่งมีผลต่ออารมณ์และสมอง
เฝ้าระวังอาการผิดปกติ เช่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า
7) เสริมพลังใจและความหมายของชีวิต (Well-being & Purpose)
ชวนผู้สูงอายุทำกิจกรรมที่ “มีคุณค่า” เช่น ถ่ายทอดความรู้ ดูแลหลาน ทำงานจิตอาสา
ให้บทบาทในครอบครัว เพื่อรู้สึกว่าตนเองยังมีประโยชน์
สนับสนุนให้มีเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น เดินให้ครบ 3,000 ก้าวต่อวัน
8) เฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิต
หากพบอาการเศร้า เบื่ออาหาร นอนไม่หลับนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรพาพบแพทย์
ใช้แบบประเมินคัดกรองผู้สูงอายุ เช่น 2Q, 9Q, Mini-Cog
สร้างเครือข่ายสนับสนุน เช่น ญาติ เพื่อนบ้าน อสม. ทีมสุขภาพตำบล
9) ชุมชน/หน่วยงานควรจัดกิจกรรมสนับสนุน
ชมรมผู้สูงอายุประจำหมู่บ้าน
กิจกรรม “สูงวัยใส่ใจสุขภาพจิต” เดือนละครั้ง
โครงการเรียนรู้ดิจิทัลสำหรับผู้สูงอายุ
การเยี่ยมบ้านเชิงรุก (Home Visit Mental Health)
ชวนทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว เช่น กินข้าว พูดคุย ทำบุญ ปลูกต้นไม้
ส่งเสริมเข้าร่วมชมรมผู้สูงอายุ วัด อปท. หรือกิจกรรมชุมชน
ลดความโดดเดี่ยว ด้วยการเยี่ยมบ้าน โทรหาบ่อย ๆ หรือใช้วิดีโอคอล
2) กระตุ้นสมองอย่างสม่ำเสมอ (Cognitive Stimulation)
ฝึกอ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง ต่อคำถามง่าย ๆ
สอนการใช้สมาร์ตโฟน เช่น ฟังเพลง ดูข่าว ส่งข้อความ
ทำงานศิลปะ งานฝีมือ เพื่อช่วยพัฒนาสมาธิและอารมณ์
3) ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (Physical Activity)
เดินวันละ 20–30 นาที หรือทำกายบริหารเบา ๆ
ฝึกทรงตัว ลดเสี่ยงหกล้ม เช่น ยืนขาเดียว เกาะพนักเก้าอี้
ทำงานบ้านเบา ๆ เช่น รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน
4) ดูแลสุขภาพการนอน
นอนให้ครบ 6–8 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงกาแฟช่วงเย็น และไม่งีบมากกว่า 30 นาที
ปรับห้องนอนให้สงบ อากาศถ่ายเท
5) โภชนาการที่ดีต่อสมอง
กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นปลาทะเล ผักใบเขียว ถั่ว
ลดหวาน มัน เค็ม ลดน้ำอัดลม
ดื่มน้ำให้พอเพียง
6) ควบคุมโรคประจำตัว
พาผู้สูงอายุพบแพทย์ตามนัด ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ
ควบคุมความดัน เบาหวาน ไขมัน ซึ่งมีผลต่ออารมณ์และสมอง
เฝ้าระวังอาการผิดปกติ เช่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า
7) เสริมพลังใจและความหมายของชีวิต (Well-being & Purpose)
ชวนผู้สูงอายุทำกิจกรรมที่ “มีคุณค่า” เช่น ถ่ายทอดความรู้ ดูแลหลาน ทำงานจิตอาสา
ให้บทบาทในครอบครัว เพื่อรู้สึกว่าตนเองยังมีประโยชน์
สนับสนุนให้มีเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น เดินให้ครบ 3,000 ก้าวต่อวัน
8) เฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิต
หากพบอาการเศร้า เบื่ออาหาร นอนไม่หลับนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรพาพบแพทย์
ใช้แบบประเมินคัดกรองผู้สูงอายุ เช่น 2Q, 9Q, Mini-Cog
สร้างเครือข่ายสนับสนุน เช่น ญาติ เพื่อนบ้าน อสม. ทีมสุขภาพตำบล
9) ชุมชน/หน่วยงานควรจัดกิจกรรมสนับสนุน
ชมรมผู้สูงอายุประจำหมู่บ้าน
กิจกรรม “สูงวัยใส่ใจสุขภาพจิต” เดือนละครั้ง
โครงการเรียนรู้ดิจิทัลสำหรับผู้สูงอายุ
การเยี่ยมบ้านเชิงรุก (Home Visit Mental Health)